ว.วชิรเมธี » “เมล็ดข้าวโพด ๒ กำ” โดย ท่าน ว.วชิรเมธี

“เมล็ดข้าวโพด ๒ กำ” โดย ท่าน ว.วชิรเมธี

16 มิถุนายน 2563
590   0


.
ศิษย์คนหนึ่งเป็นคนอารมณ์ร้อน
หงุดหงิดง่าย เอาแต่ใจตัวเอง
แถมยังปากคอเราะราย ชอบใช้วาจาทำลายคนอื่นโดยไม่รู้สึกตัว
.
นิสัยเช่นนี้ทำให้ใครต่อใครก็ไม่ชอบหน้าเธอ
อยู่มาวันหนึ่ง หลังอาหารเช้า
เธอจึงเข้าไปปรารภกับอาจารย์ว่า
ทำไมจึงไม่ค่อยมีใครในสำนักเซนอยากสนทนากับเธอ
อาจารย์ซึ่งรู้จักนิสัยเธอเป็นอย่างดี
จึงมอบเมล็ดข้าวโพดให้เธอไปสองกำ
พร้อมสั่งการบ้านว่า
“เธอจงเอาเมล็ดข้าวโพดนี้เพาะลงในกระถาง ๒ กระถาง
กระถางหนึ่ง เมื่อเพาะแล้วจงหมั่นรดด้วยน้ำเย็น
อีกกระถางหนึ่ง จงหมั่นรดด้วยน้ำร้อน
หลังจากนั้นสองสัปดาห์ได้ผลอย่างไร
จงมารายงานให้ครูทราบ”
.
ศิษย์คนนั้นกลับไปพร้อมเมล็ดข้าวโพดสองกำ
เธอทำตามคำสั่งของครูอย่างเคร่งครัด
ผ่านไปสองสัปดาห์เธอกลับมานั่งต่อหน้าครู
“เมล็ดข้าวโพดเป็นอย่างไรบ้าง”
อาจารย์ถาม
“เมล็ดข้าวโพดในกระถางที่หนูรดด้วยน้ำเย็น กำลังงอกงาม
ส่วนกระถางที่รดด้วยน้ำร้อน ไม่มีอะไรงอกงามออกมาเลยเจ้าค่ะ”
.
“เธอคิดว่า ทำไมเมล็ดข้าวโพดทั้งสองกระถางจึงต่างกัน”
อาจารย์ซักต่อ
“กระถางที่รดด้วยน้ำเย็น มีแต่ความสดชื่นรื่นเย็น
มันจึงงอกงาม พร้อมจะเติบโตต่อไป
กระถางที่รดด้วยน้ำร้อน มีแต่ความร้อนซึ่งเป็นตัวทำลาย
เชื้อแห่งชีวิตที่อยู่ในเมล็ดข้าวโพด มันจึงตายเจ้าค่ะ”
.
“คราวนี้เธอก็คงเข้าใจแล้วสินะว่า
ทุกครั้งที่เธอสื่อสารกับคนอื่นอย่างใจเย็น มีสติ
สนทนาปราศรัยด้วยปิยวาจา
มันก็จะทำให้จิตใจของคนที่อยู่ข้างหน้าพลอยสดชื่นรื่นรมย์
แต่ถ้าเธอสื่อสารกับคนอื่นอย่างขาดสติ
ใจร้อน หยาบคาย ร้ายกาจ ด้วยวาจาก้าวร้าว
มันก็จะทำให้คนที่อยู่ข้างหน้าพลอยเป็นทุกข์
เจ็บปวด โกรธแค้น และไม่อยากอยู่ใกล้เธออีกต่อไป”
“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” ศิษย์รับคำ
.
“ครูขอให้เธอจงรำลึกเอาไว้เสมอว่า
หากเธอต้องการจะปลูกต้นไม้สักต้นหนึ่ง
เธอจะต้องรดต้นไม้ที่เธอปลูกด้วยน้ำเย็นเสมอ
มีแต่น้ำเย็นสดชื่นเท่านั้น ที่จะทำให้ต้นไม้มีชีวิตอยู่ต่อไป
ไมตรีจิตมิตรภาพก็เหมือนต้นไม้ชนิดหนึ่ง
ซึ่งหากเธอต้องการมัน
เธอต้องรดด้วยน้ำแห่งสติ ด้วยน้ำแห่งเมตตาอาทร
และด้วยน้ำแห่งปิยวาจาที่เอื้อนเอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวล
หากเธอทำตรงกันข้าม
ต้นไม้แห่งไมตรีของเธอก็จะตาย…”
.
บทเรียนจากเมล็ดข้าวโพดสองกำ
ทำให้ศิษย์จอมโมโห ก้าวร้าว ปากจัดคนนั้น
เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอกลายเป็นคนใจเย็น
คิดก่อนพูด เจรจาปราศรัยด้วยปิยวาจาเสมอ
หลังจากเปลี่ยนตนเป็นคนใหม่
เธอก็มีเพื่อนมากมายมาสนิทเสวนา
ความสุขจากการเปลี่ยนแปลงตนเป็นคนใหม่
ผู้มีปิยวาจาและเมตตาประจำอยู่ในเรือนใจ
ทำให้ชีวิตของเธอไม่โดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาอีกต่อไป
เธอมีเพื่อนมากมายให้ปรึกษาหารือ
แลกเปลี่ยนสุขทุกข์ และไปกินข้าวด้วยกัน
ในที่ทำงาน เธอก็กลายเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน
.
ทุกสิ่งในโลก
ดำเนินไปอย่างมีความสมเหตุสมผลอยู่ในตัวมันเองเสมอ
เมื่อเราให้ความรักออกไป
ก็จะได้ความรักตอบกลับมา
เมื่อเราให้ความโกรธ เกลียด ชิงชัง ก้าวร้าวออกไป
เราก็จะได้ความโกรธ เกลียด ชิงชัง ก้าวร้าวกลับมา
อยากได้ความรัก
อยากได้มิตรภาพ
ก็จงบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งรักและมิตรภาพขึ้นมาในใจก่อน
หากทำตรงกันข้าม
แม้จะต้องการความรักและมิตรภาพมากเพียงใด
ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะสมหวัง
.

พระบวชใหม่รูปหนึ่ง
มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า
เมื่อบวชแล้ว จึงขออนุญาตท่านเจ้าสำนักออกไปฝึกอย่างอุกฤษฏิ์
ณ เกาะกลางน้ำที่ห่างไกลผู้คน
ตลอดเวลาสามปีที่อยู่คนเดียวบนเกาะ
ท่านฉันเพียงผลไม้ กับ น้ำเปล่า เวลาที่เหลืออุทิศให้กับการภาวนา
อยู่มาวันหนึ่ง ท่านเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาในใจ
ความรู้สึกนั้นทำให้ท่านสงบมาก
ท่านเฝ้าสังเกตตัวเองอยู่หลายวัน
ความรู้สึกแสนสงบนั้นก็ยังคงอยู่
ในที่สุดท่านก็ตกลงใจเขียนกวีนิพนธ์ขึ้นมาหนึ่งบท
จากนั้นก็จัดการมอบมันให้กับคนหาปลาที่ผ่านมาแถวนั้น
ให้นำไปมอบแก่เจ้าสำนักที่บนฝั่ง
.
หลังจากส่งมอบกวีนิพนธ์แล้ว
ท่านก็รำพึงกับตัวเองว่า
“เมื่อท่านเจ้าสำนักได้อ่านกวีนิพนธ์ของเราแล้ว
ท่านจะรู้เองว่า ใครกันแน่ที่คู่ควรต่อตำแหน่งเจ้าอาวาสรูปต่อไป”
.
เมื่อคนหาปลานำกวีนิพนธ์ไปถวายท่านเจ้าสำนักแล้ว
ท่านก็บรรจงคลี่ออกมาอ่านอย่างมีสติ
เปี่ยมไปด้วยความรู้ตัวทั่วพร้อม
บทกวีสี่บรรทัดนั้น
มีข้อความว่า
.
“พระหนุ่มผู้ลุ่มลึก
เฝ้าฝึกมาสามปี
จิตสงบเป็นรมณีย์
ลมทั้งสี่ไม่อาจโยกคลอน”
.
อ่านจบท่านเจ้าสำนักก็หยิบพู่กัน
ตวัดปากกาตอบลงไปบทกระดาษสีขาว
เป็นข้อความสั้นๆ เพียงประโยคเดียว
“ปู้ด”
.
จากนั้นก็สั่งให้คนแจวเรือนำจดหมายตอบ
ไปส่งให้แก่ภิกษุหนุ่มผู้รอคอยคำตอบอย่างกระวนกระวายอยู่บนเกาะ
ภิกษุหนุ่มมั่นใจว่า ท่านเจ้าสำนักจะต้องอ่าน “รหัสยนัย”
ที่ซ่อนอยู่ในบทกวีได้เป็นอย่างดี
และท่านก็คงจะเขียนตอบมาด้วย “สุนทรกถา” ที่แสนจะลุ่มลึก
หรือไม่ก็อาจจะมอบตำแหน่งเจ้าอาวาสองค์ต่อไปให้อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่เมื่อคนแจวเรือนำจดหมายมาส่งให้ถึงมือ
และท่านเปิดออกมาอ่านด้วยหัวใจเต้นโครมครามและมืออันสั่นเทาแล้ว
ปฏิกิริยาจากการอ่านกลับรุนแรงและเร่าร้อนยิ่ง
เพราะท่านพบกับข้อความตอบกลับจากเจ้าสำนักว่า
“ปู้ด”

 

ที่มา…  https://www.facebook.com/v.vajiramedhi/posts/10157111138440877